INTERVIEW WITH THAIHELLBOY FROM MINDTRIP&DIB RAW PRINTING
สัปดาห์นีเรามีนัดพูดคุยกับบุคคลคนๆหนึ่งครับ เรารู้จักในนามของเขา 'Thaihellboy' จากการที่เขาเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า 'Mindtrip' ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่วางขายร้านของเรานั่นเอง และนั่นคือชื่อที่เขาอยากให้เราเรียก ถึงแม้เราจะพยายามอยากรู้ชื่อจริงๆของเขา เพื่อที่จะได้เอ่ยนามถูกก็ตาม (หัวเราะ) แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการสนทนาในครั้งนี้
ทำไมเราถึงเชิญเขามาพูดคุย? เพราะที่เราทราบมาว่า นอกจากแบรนด์เสื้อผ้าที่คุณ Thaihellboy ทำแล้ว ยังมีงานอดิเรกที่เขากำลังทำอยู่ นั่นคือ การถ่ายภาพ ที่สื่อมุมมองเกี่ยวกับบนถนน ซึ่งภาพเหล่านั้นเป็นภาพเราสนใจมาก เพราะมีการเชื่อมโยงกับ Subculture ด้วย เช่นการพ่นกราฟฟิตี้ การ Bombing (บอมบิ่ง) ซึ่งเป็นภาพที่น้อยคนที่จะได้เห็นภาพ เหล่านักเขียน หรือ ศัพท์เฉพาะทางคือ Graffiti Writers (กราฟฟิตี้ไรท์เตอร์) ที่มีชื่อเสียง ทั้งไทย และต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ไปเชื่อมโยงกับงานอดิเรกของเขาได้อย่างไร เราจะมาพูดคุยกับเขาผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันครับ
สวัสดีครับ ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยครับ
สวัสดีครับ Thaihellboy ครับผม
เป็นไงครับช่วงนี้ ทำอะไรอยู่บ้างครับ?
ช่วงนี้ก็ถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยครับ ทำ Zine,Printing บ้างนิดหน่อย และก็ทำเสื้อผ้าแบรนด์ Mindtrip ครับ
ช่วยเล่าที่มา และจุดเริ่มต้นในการสนใจที่จะถ่ายภาพของคุณหน่อยครับ
จุดเริ่มต้นของผมคือเริ่มจากการอยากรู้จักช่างภาพในหนังสือที่อ่านครับ หลังจากนั้นก็เริ่มศึกษาผลงาน มุมมอง ความคิดของช่างภาพแต่ละคน จนลามไปซื้อกล้อง มาหัดถ่ายอย่างเค้าบ้าง
โจทย์แนวคิดและมุมมองของตัวเองในการถ่ายภาพแต่ละรูปขึ้นมา คืออะไรครับ?
คือต้องบอกก่อนว่าผมไม่มีความรู้เรื่องทฤษฎีการถ่ายภาพเลย ไม่เคยตั้งโจทย์กับอะไรสักอย่าง ภาพที่ผมถ่ายส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่เกิดขึ้นบนถนน ซึ่งมันไม่ต้องตีโจทย์อะไรมากมาย แค่พกฟิล์มเยอะๆ กับขยันเดิน แค่นั้นเองครับ
''ภาพที่ผมถ่ายส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่เกิดขึ้นบนถนน ซึ่งมันไม่ต้องตีโจทย์อะไรมากมาย แค่พกฟิล์มเยอะๆ กับขยันเดิน แค่นั้นเองครับ''
มีช่างภาพที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษไหมครับ?
จริงๆมีหลายคนมากครับ ขอคัดมาสัก2คนละกัน คนแรกคือ Dave Schubert เขาเป็นช่างภาพสตรีท กราฟฟิตี้ สเก็ตบอร์ด ยุค90's ว่าง่ายๆคือผมได้รับอิทธิพลของเขามาเต็มๆ(หัวเราะ) อีกคน คือ Boogie Photographer คนนี้ผมคารวะในการหาโลเคชั่นมากๆ เขามาเมืองไทยบ่อยด้วยนะ เดินเก่งมากๆ เข้าไปในชุมชนแออัดแทบจะทั่วโลกแล้วมั้ง
แล้วกล้องถ่ายรูปที่ใช้ถ่ายภาพบ่อยๆ จะใช้เป็นตัวไหนครับ
ผมใช้กล้องฟิล์มคอมแพค ทั่วไปครับ ชอบกล้องเล็กๆ พกง่าย หยิบใช้งานง่าย แต่ที่ใช้บ่อยๆก็น่าจะ Olympus mju2 เป็นกล้องฟิกซ์เลนส์ กดง่ายดีครับ แต่ตอนนี้ก็เริ่มใช้ คอมแพค ดิจิตอล รุ่นเก่าๆ บ้าง
อย่างที่เราได้เห็นผลงานแต่ละภาพของคุณ ค่อนข้างเป็นลักษณะแนว Street photography มันก็จะมีบางภาพ ที่เราสนใจและมีคำถามอยากจะถาม เช่นภาพ กลุ่มนักพ่นกราฟฟิตี้กำลังขีดเขียน พ่นสี หรือศัพท์เฉพาะทางคือ การ Bombing อันนี้ได้ขออนุญาตพวกเขาในการถ่าย หรือได้ติดต่อกันยังไงครับ ซึ่งขอบอกตรงๆว่าน้อยมากที่จะเห็นช่างภาพคนไทย ได้มีภาพถ่ายลักษณะนี้
ส่วนมากจะได้คอนแทคมาจากเพื่อนที่เป็น กราฟฟิตี้ไรเตอร์ ครับ แบบใครจะมาเที่ยวไทยต้องมาเจอผม ให้ผมพาไปเที่ยว (เหมือนเป็นไกด์เถื่อน) ปาร์ตี้ เดินเล่น ทำ Bombing แล้วผมเป็นคนที่พกกล้องในกระเป๋าตลอดเวลา ก็เลยได้ภาพพวกนั้นมาครับ มีช่างภาพคนไทยถ่ายไหม ผมไม่แน่ใจ เพราะผมก็ยังไม่เคยเห็นใครถ่ายภาพลักษณะนี้นะ
Sadue 907
อย่างนี้นี่เอง แล้วได้พูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับ กราฟฟิตี้ ในประเทศไทยบ้างไหมครับ?
คุยกับทุกคนครับ เรื่อง Bombing ล้วนๆ (หัวเราะ) คือไรเตอร์ที่ผมเจอส่วนใหญ่เค้าไม่สนใจงาน Piece กันครับ
Rogue QTR
แน่นอนแหละว่าคุณต้องมีความสนใจในเรื่องกราฟฟิตี้อยู่บ้างไม่น้อย คือจะเห็นได้ว่ามันอยู่คู่กันบนถนน ตรอกซอกซอย ในบ้านเรามานาน และวันนึงคุณได้มีโอกาสถ่ายภาพพวกเขา จึงอยากทราบมุมมองของคุณต่อกราฟฟิตี้ในประเทศไทยหน่อยครับ
ในมุมมองของผม กราฟฟิตี้ในไทยตอนนี้มันขาดความบาลานซ์นะ จริงๆไรเตอร์ไทยมีเยอะมาก แต่ไม่ค่อยออกมาทำ Bombing กัน ถ้าคนที่ทำแต่ Piece ออกมาทำ Bombingบ้าง คนทำ Bombing ไปทำ Pieceบ้าง สลับกัน คุณนึกภาพตามสิ กราฟฟิตี้บนถนนมันจะแน่นขนาดไหน ยิ่งถ้ามี Crewไหน Beef กันนะ โคตรสนุกเลย
Gos, Daeta
''ถ้าคนที่ทำแต่ Piece ออกมาทำ Bombingบ้าง คนทำ Bombing ไปทำ Piece บ้าง สลับกัน คุณนึกภาพตามสิ กราฟฟิตี้บนถนนมันจะแน่นขนาดไหน ยิ่งถ้ามี Crewไหน Beef กันนะ โคตรสนุกเลย''
'Mindtrip' Designed by Nutdub
มาพูดถึงเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าของคุณบ้างดีกว่า ‘’Mindtrip’’ เพราะว่าแบรนด์ของคุณได้วางจำหน่ายที่ร้านของเราด้วย ช่วยเล่าความเป็นมาของแบรนด์นี้ให้เราฟังสักนิดนึงครับ
Mindtrip เกิดขึ้นมาแบบ งงๆ เมาๆ ในช่วง Covid19 ระบาดช่วงแรก ที่เราต้อง Stay home ไปไหนไม่ได้ บวกกับขาดรายได้ในช่วงนั้นเลยลองทำเสื้อออกขายเป็นรายได้เสริม ต่อมาได้ Nutdub มาช่วยออกแบบทำให้แบรนด์ได้ลูกค้าที่ชอบงาน Tattoo เพิ่มขึ้นมาด้วยครับ
หลังจากนี้จะมีแพลนทำอะไรต่อในอนาคตครับ
ยังไม่มีแพลนอะไรพิเศษครับ ช่วงนี้ก็รวบรวมรูปที่ถ่ายๆไว้ทำ Zine, Printing ติดตามผลงานได้ที่ ig @dibstudio.th ครับ
สำหรับสินค้าของ Mindtrip มีจำหน่ายแล้วที่ร้านของเราทั้งหน้าร้านและ Online Store สามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้ ที่นี่
Instagram : Mindtriporiginal / Thaihellboyoriginal / Dibstudio.th